ข้อพิจารณาเบื้องต้นในการยื่นคำร้องขอจัดการมรดก

1. ตรวจสอบการสะกดชื่อ-นามสกุลของบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคนในเอกสารทุกฉบับว่าถูกต้องตรงกันหรือไม่

เช่น ตามทะเบียนบ้านของบุตร ได้ระบุชื่อบิดา คือ เฮง แต่ตามมรณบัตรได้ระบุชื่อบิดา คือ เฮ้ง  ดังนั้น หากมีกรณีเช่นนี้ กรุณาติดต่อสำนักงานเขตเพื่อขอให้ออกหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน

2. หากผู้ตายหรือทายาทที่มีสิทธิรับมรดกคนใดตายและมีสถานะโสด ขอให้ติดต่อสำนักงานเขตเพื่อขอให้ออกหนังสือ "ข้อมูลทะเบียนครอบครัว" เพื่อประกอบการขอจัดการมรดก

3. ดาวน์โหลด "บัญชีเครือญาติ" และกรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน โดยผู้จัดการมรดกเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง (คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดไฟล์)

4. "หนังสือให้ความยินยอม" (คลิกที่นี่เพื่อดาวโหลดไฟล์) กรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน โดยแนบ 

-สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชนของทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย อย่างละ 1 ชุด โดยจะต้องลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องด้วยตนเอง

-หากทายาทคนใดมีการเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล หรือมีการจดทะเบียนสมรส กรุณาถ่ายสำเนา 1 ชุด และจะต้องลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องด้วยตนเอง

- หากทายาทผู้ให้ความยินยอมมีอายุยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ผู้ลงลายมือชื่อจะเป็นบิดาหรือมารดาของผู้เยาว์หรือผู้อนุบาล เป็นตัวแทนของบุคคลวิกลจริตหรือผู้พิทักษ์เป็นตัวแทนของผู้เสมือนไร้ความสามารถ และแนบสำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชนของบิดาหรือมารดาของเด็กผู้ให้ความยินยอมมาด้วย

เช่น

ลงชื่อ.........นางบุญ สายใจ....................................

(นางบุญ สายใจ เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมด.ญ.สายไหม สายใจ)

5. ทรัพย์ที่ต้องการจัดการมรดก เช่น โฉนดที่ดิน หรือเงินฝากธนาคาร ให้อัพเดทเอกสารให้เป็นปัจจุบันถ่ายสำเนาทุกหน้าและนำมาประกอบคำร้องขอจัดการมรดกเพียง 1 ประเภท

หมายเหตุ

เตรียมสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวน 1 ชุด และผู้จัดการมรดกเป็นผู้ลงลายมือชื่อในเอกสารทุกหน้าแม้จะเป็นเอกสารของผู้ตายก็ตาม

ยกเว้น เอกสารที่ทางราชการออกให้ เช่น หนังสือรับรองรายบุคคล หรือ คำร้องเกี่ยวกับงานทะเบียนราษฎร

**ค่าธรรมเนียมศาล   200 บาท

 ติดต่อขอรับบริการได้ที่  ศูนย์จัดการมรดก ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ชั้น 3  ในวันและเวลาราชการ

 โทร. 02- 210 4041 , 02- 210 4405